ประวัติคริสตจักรพระสัญญา
ค.ศ. ๑๙๖๑ นักศึกษาโรงเรียนพระคริสตธรรม แบ๊บติสต์ เพลินจิต ชื่อ นาย ศุภชัย วงศ์ธนาธิกุล ได้ติดตาม แหม่มคลายไปประกาศในหลายจังหวัด ซึ่งขณะนั้นยังเป็นนักศึกษาฝึกหัด จนกระทั่ง ปี ค.ศ. ๑๙๖๒ โรงเรียนพระคริสตธรรมแบ๊บติสต์ เพลินจิต ได้มีนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาออกมา ๒ ท่าน หนึ่งในนั้นคือ นาย ศุภชัย วงศ์ธนาธิกุล อีกหนึ่งท่าน คุณ เวส ลี ปัจจุบันพำนักอยู่ที่ สหรัฐอเมริกา ครูศุภชัย ก็ยังคงทำงานประกาศร่วมกับแหม่มคลาย จนกระทั่งสุดท้ายจึงได้มีนิมิตที่จะทำงานในเขตจังหวัดสมุทรปราการ โดยขณะนั้นทางมูลนิธิแบ๊บติสต์ แห่งประเทศไทย และคริสตจักรอิมมานูเอล เป็นผู้สนับสนุน โดยได้เริ่มเช่าบ้านหลังหนึ่งตรงข้ามศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ (ปัจจุบันได้รื้อไปแล้ว) เป็นสถานประกาศชื่อว่า “สถานประกาศ อิมมานูแอลปากน้ำ” ในช่วงการทำงานประกาศในปีแรกนั้น การทำงานเป็นไปด้วยความท้อ และยากลำบาก สถานประกาศจะเต็มไปด้วยเด็กๆ ซึ่งมาเรียน รวีวารศึกษา และภาษาอังกฤษ โดยผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยให้ความสนใจในเรื่องงานประกาศ และมักจะร้องขอความช่วยเหลือจากทางสถานประกาศมากกว่า
(ค.ศ.๑๙๖๓) ๑ ปีผ่านไปพร้อมกับความท้อและยากลำบาก ช่วงนี้กลับเป็นช่วงที่สถานประกาศคึกคักมาก ข้าราชการและนักศึกษาต่างให้ความสนใจอย่างมากกับชั้นเรียนภาษาอังกฤษ (เรียนฟรี) การทำงานด้านการประกาศควบคู่การไปจึงเป็นเรื่องที่ง่าย ขณะนั้น มีนักศึกษา และผู้สนใจอยู่มากถึง ๘๐ คน จนสถานที่ไม่เพียงพอ ได้มีคริสเตียนท่านหนึ่ง คือท่านอาจารย์อนงค์ นิมานเหมินทร์ ท่านได้ทราบข่าวงานประกาศข่าวประเสริฐ จากครูศุภชัย และว่าทางสถานประกาศมีปัญหาเรื่องสถานที่ ท่านจึงมีความกรุณาให้ย้ายสถานประกาศมายังบ้านริมน้ำหลังหนึ่งของท่านที่มี บริเวณกว้างขวาง (อยู่เชิงสะพานมหาวงษ์) และมีสมาชิกผู้รับเชื่อแล้วในปีนี้อยู่ถึง ๑๐ คน (ในปีเดียวกันนี้ แหม่มคลาย ท่านได้หมดวาระการทำงานในประเทศไทยและทางมูลนิธิ ฯ ได้ให้ อาจารย์ แมคคอลส์ มาช่วยงานแทน)
(ค.ศ. ๑๙๖๔) ๑ ปีต่อมา ครอบครัวของอาจารย์ แมคคอลส์ ได้ย้ายกลับเข้าประจำที่กรุงเทพ และได้มีครอบครัวของอาจารย์ มูลี่ เข้ามาช่วยงานแทนในช่วงนี้สถานประกาศจำเป็นต้องย้ายอีกครั้ง โดยย้ายมาเช่าห้องแถวเยื้องสถานีตำรวจ เพราะใกล้สถานที่ราชการและอยู่ใจกลางเมือง (ในปีเดียวกันนี้ คุณครูศุภชัย ได้เข้าสมรสกับ คุณสุวราภรณ์ ที่ คริสตจักรอิมมานุเอล)
(ค.ศ. ๑๙๖๕) อาจารย์ มูลี่ ได้ปรึกษา กับ ครูศุภชัย ในการซื้อที่ดินเพื่อก่อตั้งคริสตจักร และได้ทำเรื่องถึงทางมูลนิธิ แบบติสต์ แห่งประเทศไทยในเวลาต่อมา ในขณะนั้นมีสมาชิกที่มาประชุมประจำอยู่ ๔๐ คน
(ค.ศ. ๑๙๖๗) ทางมูลนิธิ แบ๊บติสต์ แห่งประเทศไทย ก็ได้ซื้อที่ดิน (ที่ตั้งคริสตจักรในปัจจุบัน) โดยมีข้อแม้ว่าในการก่อสร้างตัวอาคารนั้นทางท่านอาจารย์ มูดี้ กับ ครูศุภชัย ต้องช่วยกันรับผิดชอบเอง
คริสตจักร พระสัญญา
ค.ศ. ๑๙๖๘
ด้วยความเชื่อและความทุ่มเท ในปีดังกล่าว อาคารนมัสการก็สามารถสร้างเสร็จ นับเป็นการย้ายครั้งสุดท้าย โดยได้สถาปนา “สถานประกาศอิมมานุเอลปากน้ำ” ขึ้นเป็น “คริสตจักร พระสัญญา” และ “ครูศุภชัย วงศ์ธนาธิกุล” เป็น อาจารย์ และศิษยาภิบาลคริสตจักรพระสัญญา
(ค.ศ.๑๙๗๖) ด้วยความอดทน มานะ และบากบั่นของครอบครัวที่มีถึง ๕ ชีวิต (ในขณะนั้น) กับสมาชิกส่วนหนึ่งที่ยังต้องพึ่งคริสตจักร ฯ โดยความเชื่อมั่นในองค์พระคริสต์ การรับใช้ก็ดำเนินไปได้ อาจารย์ศุภชัย ได้เริ่มโครงการฝึกวิชาชีพให้กับสมาชิก โดยวิชาชีพที่มีความต้องการมากในสมัยนั้นได้แก่ งานไฟฟ้า งานประปา ทำให้สมาชิกอีกทั้งครอบครัวของอาจารย์ศุภชัยเอง ผ่านวันเวลามาได้อย่างพอเพียง ในปีเดียวกันนี้ ทางมูลนิธิ แบ๊บติสต์ แห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้ ศฑ. พอล แม็ส อาเธส เซ็นดาวร์ แต่งตั้ง อาจารย์ ศุภชัย วงศ์ธนาธิกุล ขึ้นเป็น “ศาสนาจารย์ ศุภชัย วงศ์ธนาธิกุล” (สมาชิกในขณะนั้น ๖๓ คน)
ก่อนถึงปี ค.ศ. ๑๙๘๘ กับโครงการ “เราห่วงท่าน” “เราเป็นหนึ่ง” “มารักคริสตจักรกันเถอะ” “สถานประกาศ หมู่บ้าน ไทยสมุทร” (อาจารย์ วิเศษ สุทธิประภา) “หนึ่งนำหนึ่ง”
และ เมื่อถึงปี ค.ศ. ๑๙๘๗ กับการต่อเติมสถานนมัสการที่สามารถจุสมาชิกได้ ๑๕๐ คน
(ค.ศ. ๑๙๘๘) ๒๐ ปีพระสัญญา โดยความเชื่อกับการลงมือทำ อาคารนมัสการปรับปรุงใหม่ กับสมาชิกในขณะนั้น ๑๕๒ คน (ผู้เข้าร่วมนมัสการในทุกวันอาทิตย์ ประมาน ๙๐ คน)
(ค.ศ. ๒๐๐๐) กับโครงการ “ทุนการศึกษาเด็ก” (๑๐๐++หน่วย) “การประกาศร่วมกันของคริสตจักรในสมุทรปราการ” “สถานประกาศแห่งใหม่” “อาคารเรียนพร้อมคริสตจักรเด็ก” “พระวิหารหลังใหม่ที่สามารถจุสมาชิก ๓๐๐ คนขึ้น”
๑ ธันวาคม ๒๐๐๒ ถวายอาคาร พันธสัญญา (อาคาร ๓ ชั้นพื้นที่ใช้สอย ๖๖๐ ตารางเมตร) โดยเรียนเชิญท่านอาจารย์ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ ประธานมูลนิธิคริสตจักรคณะแบ๊บติสต์ ศฑ.เดวิด นิวตัน ประธานมูลนิธิ แบ๊บติสต์ แห่งประเทศไทย อธิษฐานถวายและเปิดใช้อาคาร
๑ สิงหาคม ๒๐๐๕ “สถานประกาศพระสัญญา พระสมุทรเจดีย์” โดยการสนับสนุนจากคริสตจักรพระสัญญา อาจารย์ ไพบูลย์ สุขเลิศดิลกกุล พร้อมสมาชิก ๑๒ คน ได้เริ่มงานประกาศด้วยความเชื่อ ว่าสามารถสถาปนาขึ้นเป็นคริสตจักรได้ในปี ค.ศ. ๒๐๑๐
๑๙ มีนาคม ๒๐๐๕ พิธีวางศิลาราก สร้างพระวิหารหลังใหม่
(อาคาร ๒ ชั้นครึ่ง พื้นที่นมัสการ ๖๕๑ ตารางเมตร พร้อมพื้นที่จอดรถในอาคาร ๔๐๐ ตารางเมตร) สามารถจุสมาชิกได้กว่า ๓๐๐ คน งบประมานการจัดซื้อ จัดจ้าง ในเบื้องต้น ๑๒ ล้านบาท
๔ พฤษภาคม ๒๐๐๘ การเฉลิมฉลอง พระวิหาร คริสตจักรพระสัญญา และสถาปนาศิษยาภิบาล อาจารย์ ดร.ทะนุ วงศ์ธนาธิกุล
ค.ศ. ๒๐๐๙ กับโครงการพระสัญญาสู่ชุมชน นำคนสู่พระคริสต์
ค.ศ. ๒๐๑๐ “ร่วมโครงการ ลานบุญ ลานปัญญา” ร่วมกับกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
ค.ศ. ๒๐๑๑ “เดินตามแบบอย่างพระเยซู”คริสตจักรลูก สถานประกาศพระสัญญาพระสมุทรเจดีย์ ได้รับการรับรองเป็น “คริสตจักรแสงแห่งชีวิต”
ค.ศ. ๒๐๑๒ “นำคนสู่พระคริสต์ นำชีวิตสู่ความไพบูลย์”