ผม เติบโตในครอบครัวคริสเตียน และไปโบสถ์กับคุรพ่อคุณแม่เป้นประจำตั้งปต่ผมยังเด็ก ทำให้ผมรู้ว่า พระเยซูคริสต์คือพระเจ้าที่ลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ และยอมตามเพื่อไถ่บาปของผม วันหนึ่งผมจุงขอให้พระองค์เข้ามาสถิตในใจ และเป้นพระเจ้าในชีวิตของผมตลอดไป เพราะผมรักที่จะถวายเกียนติแด่พระเจ้าด้วยเสียงดนตรี ทุกวันอาทิตย์ผมจึงเล่นดนตรีเพื่อมนัสการพระเจ้าที่โบสถ์เป็นประจำ

ตอน ผมอายุ 19 ปี ผมมีโอกาสร่วมแสดงในคอนเสิร์ตสำคัญครั้งหนึ่ง หลังจากคืนนั้นก็มีสิ่วดี ๆ อีกหลายอย่างเกิดขึ้นในชีวิต เช่น ผมได้ออกอัลบั้มเพลงของผมเอง ได้ปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ และได้แสดงในคอนเสิร์ตใหญ่อีกหลายครั้ง พระเจ้าทรงเปิดโอกาส ให้ผมได้ถวายเกียรติแด่พระองค์ด้วยการเล่นดรตรีบนเวที ใหญ่ขึ้น

ก่อนการแสดงทุกครั้งผมจะอธิษฐานขอบคุณพระเจ้า สำหรับพระเยซูคริสต์พระบุตร องค์เดียวของพระองค์ และขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระพรที่พระเจ้าประทานให้แก่ผมเสมอ นอกจากนั้นผมจะอธิษฐานขอสันติสุข และการนำทางจากพระองค์ด้วย แม้ว่าการอธิษฐานจะไม่ได้ขจัดความกังวลทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ช่วยทำให้เกิดความมั่นใจ เพราะผมรู้ว่าพระเจ้าเฝ้ามองผมอยู่

ผมรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับในวันนี้ เป็นของประทานจากพระเจ้าไม่ใช่ของ ผมเอง ดังนั้นผมจึงไม่รู้สึกกังวลใจว่าเพลงของผมจะได้รับความนิยมหรือไม่ ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่า ผมไม่ชอบความสำเร็จหรือไม่อยากได้รางวัล แต่ผมไม่สามารถเป็นผู้กำหนดสิ่งเหล่านั้น หน้าที่ของผม คือ วางใจในพระเจ้าและทำสิ่งที่ผมทำอยู่ให้ดีที่สุด แล้วรอคอยการนำของพระองค์ต่อไปด้วยความศรัทธา

พรสวรรค์ ทางดนตรีของผมเป็นพระพรจากพระเจ้า ไม่ใช่เพราะโชคชะตา ผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงมีแผนการที่ดีที่สุดสำหรับเราแต่ละคน ขอเพียงคุณเปิดใจเชื่อพระเจ้า และแสวงหาน้ำพระทัยของพระองค์ให้พบเท่านั้น

ที่มา: หนังสือพลังชีวิต