“พระเจ้ายิ่งใหญ่”
แล้วเราตระหนักกันแค่ไหนว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่เพียงใด
เมื่อผมขับรถไปต่างจังหวัด เห็นภูเขาลูกใหญ่โตมหึมา ก็คิดว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่จริงๆ นะ สร้างภูเขาลูกนั้นได้ เมื่อผมเห็นท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ก็สัมผัสได้ว่า พระเจ้ายิ่งใหญ่มาที่ได้สร้างผืนน้ำขนาดกว้างใหญ่ไพศาลนี้ หรือแม้แต่สัตว์ทั้งหลายที่พระเจ้าสร้างมา มนุษย์ยังค้นพบไม่หมดเลย ไม่ว่าจะมีวิทยาการก้าวหน้าแค่ไหนก็ตาม คุณเชื่อหรือไม่ว่าในป่าฝนอเมซอน องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF)
รายงานว่า มีการค้นพบสิ่งมีชีวิตที่โลกภายนอกไม่เคยเห็นมาก่อน ในอัตราเฉลี่ย 1 ชนิดในทุกๆ 3 วัน ช่วงปี 1999 – 2009 มีสัตว์และพืชถูกค้นพบใหม่ถึง 1,220 ชนิด เลยทีเดียว
ลองคลิกอ่านข่าวการค้นพบสิ่งมีชีวิตได้ที่นี่
“พบสิ่งมีชีวิตใหม่ในป่าอเมซอน”
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000151124
เราพอจะรู้ได้ว่า โธมัส เอดิสัน เป็นยอดนักประดิษฐ์ได้อย่างไร ก็ลองดูจากผลงานการประดิษฐ์ของเขา ซึ่งเขาเป็นผู้ถือสิทธิบัตรที่จดในนามของเขาเองมากกว่า 1,000 รายการ
(ยังไม่นับรวมที่ไม่ได้จดสิทธิบัตร และจดในนามผู้อื่นอีก) และคุณประโยชน์ของงานประดิษฐ์ของเขาที่มีผลต่อโลกนี้ในมุมกว้าง เช่นเดียวกัน เราสัมผัสและรับรู้ได้ว่าพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ ก็ลองดูจาก
พระหัตถกิจของพระองค์ สิครับ ...
คุณคิดว่าจักรวาล หรือเอกภพ (Universe) ที่พระเจ้าสร้างกว้างใหญ่แค่ไหนครับ
แล้วกาแล็กซี่ล่ะ แล้วสุริยจักรวาลล่ะ หลายๆ คน เริ่มจะงงแล้วว่าคำศัพท์แต่ละคำมันแตกต่างกันอย่างไร มันเป็นศัพท์เทคนิคของพวกนักดาราศาสตร์น่ะครับ ง่าย ๆ เลย
สิ่งเหล่านี้ก็คือบ้านที่ดวงดาวต่าง ๆ อาศัยอยู่ก่อนที่เราจะมาดูบ้าน เรามาดูสมาชิกที่อยู่ในบ้านก่อนดีกว่า เราลองมาคิดกันเล่นๆ ว่า ดวงดาวหนึ่งดวง สามารถมีขนาดใหญ่ได้แค่ไหน ถ้าเราจะเขียนบรรยายความอัศจรรย์ของอวกาศและดวงดาวต่างๆ คงไม่สามารถช่วยให้เราเห็นภาพและเกิดความเข้าใจได้ดีพอ จึงมีคนทำเป็นแอนิเมชันมาให้พวกเราได้ดูกันอย่างง่ายๆ ซึ่งช่วยให้เราเห็นภาพและจินตนาการได้ดียิ่งขึ้น (ขอเน้นว่าได้ดียิ่งขึ้น เท่านั้น) ลองดูจากลิงก์ยูทูบที่ผมเอามาแบ่งปันให้ชมกันนะครับ ผมขออนุญาตแปลเนื้อหาที่เล่าเอาไว้ในแอนิเมชันให้ฟังนะครับ
- มาพูดถึงเรื่องของ “ขนาด” กัน
- วัตถุที่ลอยอยู่ในจักรวาลใหญ่โตขนาดไหน และมันจะใหญ่ได้ถึงขนาดไหนกันนะ
- มาดูภาพเปรียบเทียบกัน เริ่มจากวัตถุที่ค่อนข้างใหญ่ เช่น ดวงจันทร์ของเรากัน
- ดวงจันทร์ (ของโลก) / ดาวพุธ / ดาวอังคาร / ดาวศุกร์ / โลก /
- ดาวเนปจูน / ดาวเสาร์ (แบบไม่มีวงแหวน) / ดาวพฤหัส / ดวงอาทิตย์ (ของเรา)
- ซิริอุส เอ / พอลลักซ์ (ดาวยักษ์ส้ม) / อาร์คทูรัส (ดาวยักษ์แดง) / อัลดีบาราน (ดาวยักษ์แดง)
- ริเกิล (ดาวมหายักษ์น้ำเงิน) / ดาวพิสตอล (ดาวอภิมหายักษ์น้ำเงิน) /
- แอนทาเรส เอ (ดาวมหายักษ์แดง) / มิว เซไฟ (ดาวมหายักษ์แดง) /
- วีวาย คานิส เมจอริส (ดาวอภิมหายักษ์แดง) = ดาวที่ใหญ่ที่สุดที่มนุษย์ค้นพบ
- ขนาดของโลก (เล็กเท่าขี้ฝุ่นไหมครับ) เปรียบเทียบกับพื้นผิวของดาว วีวาย คานิส เมจอริส
- ดาววีวาย (เรียกแค่นี้ก็แล้วกัน ชื่อยังอุตส่าห์ยาวได้อีกนะ) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 2,800,000,000 กิโลเมตร (สองพันแปดร้อยล้านกิโลเมตร) ไม่รู้จะจินตนาการอย่างไรดี (เส้นผ่าศูนย์กลางนะครับ ไม่ใช่เส้นรอบวง)
- ถ้างั้นลองนึกถึงเครื่องบินลำหนึ่ง กำลังบินอยู่เหนือพื้นผิวของดาวดวงนี้ที่ความเร็ว 900 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ถามว่าต้องใช้เวลานานเท่าไร ถึงจะบินครบรอบดาวดวงนี้ 1 รอบ คำตอบ คือ 1,100 ปี (เอง)
- แต่ดาวดวงนี้ก็คือจุดเล็กๆ จุดหนึ่งท่ามกลางดวงดาวกว่าแสนล้านดวงที่กระจุกรวมตัวกันอยู่ในกาแล็กซีของ เรา (กาแล็กซีที่เราอยู่ร่วมกับดาวดวงอื่นคือ กาแล็กซีทางช้างเผือก)
- และนี่ยังไม่ได้พูดถึงกาแล็กซีอื่นๆ อีกในเอกภพที่มีอยู่อีกประมาณ แสนล้านกาแล็กซี่ (เอง)
- “คุณไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลนี้”
โลกเล็กเท่าฝุ่นผง เมื่อเทียบกับดวงดาวที่ใหญ่ที่สุด (ที่มนุษย์พอจะรู้จัก)
แล้วถ้าเทียบกับจักรวาลทั้งหมดล่ะครับ โลกของเราสุดแสนจะขี้ปะติ๋วจริงๆ
และจำนวนของดวงดาวทั่วทั้งจักรวาลนี้ มันช่างมากมายเหลือคณานับจริงๆ
เข้าใจรึยังครับว่า อับราฮัมมีลูกหลานมากมายดุจดวงดาวบนท้องฟ้า
ช่างเป็นคำเปรียบเปรยที่เหมาะสมอย่างยิ่ง
เมื่อเทียบจำนวนประชากรของโลกในเวลานั้น กับปัจจุบันที่มีกว่า 6 พันล้านคน
ก็เกินจินตนาการของคนในยุคสมัยนั้นจะเข้าใจได้ว่า 6 พันล้านคนมันจะมากมายสักแค่ไหน

นี่คือสมาชิกที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังที่ชื่อว่า “จักรวาล” นะครับ แล้วลองคิดดูว่าจักรวาลจะใหญ่โตขนาดไหนที่จะบรรจุสมาชิกทั้งหมดนี้เอาไว้ให้ อยู่ด้วยกัน เท่านั้นยังไม่พอ ดาวเหล่านี้ยังอยู่ด้วยกันอย่างมีระบบระเบียบอีกด้วย และระยะห่างของดาวแต่ละดวง ไม่ใช่แค่ระยะที่ตาเห็นในแผนภาพที่ปะไว้ในห้องเรียนนะครับ ดาวแต่ละดวงอยู่ห่างจากกันมากๆ มากๆ มากๆ .... มากขนาดไหนขออนุญาตอ้างอิงความรู้จากหนังสือ “ประวัติย่อของเกือบทุกสิ่ง” (A Short History of Nearly Everything) ซึ่งพูดถึงระยะทางในสุริยจักรวาลของเราไว้ว่า
ในมาตราส่วนเดียวกัน
จะอยู่ห่างออกไป 16,000 กิโลเมตร
แม้ถ้าคุณจะหดทุกสิ่งทุกอย่างลงมาจนดาวพฤหัสเหลือเล็กเท่าจุดฟูลสต๊อป
และดาวพลูโตเล็กเท่าหนึ่งโมเลกุลพลูโตก็ยังต้องอยู่ห่างออกไป
มากกว่า 10 เมตรอยู่ดี”

สิ่งที่ได้บรรยายมานี่เป็นอะไรที่เกินความคิดความเข้าใจที่เคยมีมาตลอดเวลา ที่ผ่านมาจริงๆ (จากแผนภาพที่เราเห็นติดตากันมาตลอดในช่วงวัยเรียน) ดวงดาวต่างๆ อยู่ห่างไกลกันขนาดนี้ สิ่งที่เดินทางได้เร็วที่สุด คือ แสง ก็ยังต้องอาศัยการเดินทางเป็นปี ๆ กว่าเราจะข้ามไปยังดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ นี่คือดวงดาวที่กระจุกกันอยู่ภายในกาแล็กซี่เดียวกัน (ซึ่งมีเป็นแสนล้านดวง) ดาววีวาย ฯ คือดาวที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์จะค้นพบได้ครับ แสดงว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีดาวที่ใหญ่กว่าดาว
วีวายฯ อีกแน่นอน เพราะในจักรวาลทั้งหมดมีกาแล็กซี่เช่นเดียวกับกาแล็กซี่ทางช้างเผือกของเรา
อีกเป็นแสนล้านกาแล็กซี่

ความใหญ่โตโอฬารของจักรวาลนี่มันสุดแสนจะจินตนาการได้จริงๆ แล้วลองคิดดูก็แล้วกันว่า ผู้ที่สร้างสรรพสิ่งเหล่านี้ ทั้งสมาชิกภายในบ้าน รวมถึงบ้านหลังนี้ จะไม่ยิ่งใหญ่อย่างไรได้ ถ้าวันนี้ คุณได้รับกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดินในพื้นที่ถนนสีลมทั้งสาย จากมูลค่าทรัพย์สินที่ถือครองอยู่
คุณคงจะกลายเป็นอภิมหาเศรษฐีของประเทศไทยไปในพริบตา เพราะขนาดแค่เป็นเจ้าของตึกสักตึกหนึ่งบนถนนสีลม คุณก็เป็นเศรษฐีระดับแนวหน้าได้สบายๆ แล้ว พื้นที่เล็กๆ แค่นี้ ยังมีมูลค่าทำให้คุณร่ำรวยได้ขนาดนี้ แล้วพื้นที่ขนาดที่พระเจ้าครอบครองอยู่ทั่วทั้งจักรวาลล่ะ คุณคิดว่าพระเจ้าของเรา
ร่ำรวย มั่งคั่ง ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร สุดแสนจะพรรณาขนาดไหน แต่ดูเถิด ถ้าพระเจ้าจะให้กับเราในสิ่งเหล่านี้ และเราร่ำรวยมั่งมีขึ้น เราก็อาจเผลอคิดว่าเรายิ่งใหญ่ และทะนงตนว่าเราเก่งกาจสามารถ
ในทางกลับกัน นักวิชาการบอกว่าพื้นที่ในกรุงเทพฯ กำลังทรุดตัวลงปีละ 3 ซม. และในอีก 10-20 ปีข้างหน้า มีนักวิชาการได้พยากรณ์ไว้ว่ากรุงเทพฯ จะเป็นกลายเป็นนครใต้บาดาล ทุกอย่างจะลงไปอยู่ใต้ผืนทะเลทั้งสิ้น วันนั้น พื้นที่ถนนสีลมทั้งสาย (แถมพื้นที่สาธร สุรวงศ์ สามย่านให้ด้วย) กลับกลายมีมูลค่าเพียงแค่ 0 บาทเท่านั้น

จักรวาลและสรรพสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เปิดเผยความใหญ่ยิ่งของผู้ที่สร้างมันขึ้นมา แค่เพียงเราจินตนาการยังไม่สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์เลย หนังสือโรม บทที่ 1 ข้อที่ 20 กล่าวไว้ว่า
คือ ฤทธานุภาพนิรันดร์และเทวสภาพของพระองค์อย่างชัดเจน
จากสิ่งที่ทรงสร้าง ดังนั้นมนุษยจึงไม่มีข้อแก้ตัวเลย” (ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย)
ใช่แล้ว เราไม่มีข้อปฏิเสธเลยว่าพระเจ้าทรงเป็นจริง!!!
บทเพลงบทหนึ่งได้ถูกเขียนขึ้นเพื่อพรรณาถึงความยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้าและจักรวาลที่พระองค์ทรงสร้างไว้ ชื่อเพลงว่า How Great Thou Art (How Great You Are) หรือ พระเจ้ายิ่งใหญ่ เพลงนี้เป็นเพลงฮิมน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับ 2 (รองจาก Amazing Grace) จากการจัดอันดับโดยนิตยสาร Today’s Christian ในปี 2001
บทเพลงฮิมน์บทนี้เขียนขึ้นในปี 1885 โดยกวีชาวสวีเดนมีนามว่า Carl Gustav Boberg เป็นเพลงพื้นเมืองภาษาสวีเดน หลังจากนั้นมีหลายต่อหลายคนได้ถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้มีการแปลถ่ายทอดออกมาหลายเวอร์ชัน จนกระทั่งเป็นเวอร์ชันที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด คือ เวอร์ชันปัจจุบันนี้ แปลโดย Stuart K. Hine
O Lord my God! When I in awesome wonder
Consider all the works Thy hands have made.
I see the stars, I hear the rolling thunder,
Thy power throughout the universe displayed.
Then sings my soul, my Saviour God, to Thee;
How great Thou art, how great Thou art!
Then sings my soul, My Saviour God, to Thee:
How great Thou art, how great Thou art!
http://www.allaboutgod.com/how-great-thou-art.htm
มาถึงจุดนี้ หากเราตระหนักได้ถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เราคงตัวสั่นเทิ้มเมื่อพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่เสด็จมาท่ามกลางเสียงสรรเสริญ ของเราในที่ประชุม พระเจ้าผู้กระทำพระมหัตถกิจอันเกินจินตนาการของมนุษย์ได้เสด็จมาประทับอยู่เคียงข้างเราและภายในเราทุกคน

ถึงแม้พระเจ้าจะทรงยิ่งใหญ่ แต่พระองค์ทรงรักเราอย่างสุดหัวใจ ดาวิดได้กล่าวถึงความประทับใจนี้ไว้ในหนังสือสดุดี บทที่ 8 ข้อที่ 3-5 ว่า...
“เมื่อข้าพระองค์เพ่งพินิจฟ้าสวรรค์ อันเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์
ดวงจันทร์และดวงดาวทั้งหลายที่พระองค์ทรงตั้งไว้ มนุษย์ที่ต้องตายเป็นใครหนอ
พระองค์จึงทรงพะวงถึง? บุตรของมนุษย์เป็นผู้ใด พระองค์จึงทรงห่วงใยพวกเขา?
พระองค์ทรงสร้างพวกเขาให้ต่ำกว่าชาวสวรรค์เพียงเล็กน้อย
และทรงสวมมงกุฎแห่งศักดิ์ศรีและเกียรติให้พวกเขา” (อมตธรรมร่วมสมัย)
ดังนั้น เมื่อบทเพลง “พระเจ้ายิ่งใหญ่” ดังก้องขึ้นมาเมื่อไร ขอให้เรานมัสการพระองค์อย่างสุดเสียงสุดชีวิตของเราเพื่อยกยอพระเกียรติแด่ พระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่เหนือสรรพสิ่งใด ๆ และความรักที่พระองค์ทรงมีต่อเราทั้งหลาย... อาเมน
คัดลอกข้อมุลจาก
http://www.oknation.net/blog/Joseph/2010/11/12/entry-2