วันอีสเตอร์เป็นที่วันที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย โดยหลายประเทศก็ได้มีการจัดกิจกรรมในวันอิสเตอร์ด้วยการหาไข่ โดย “ไข่” มีความหมายถึงการบังเกิดใหม่ ชีวิตใหม่ที่มาจากองค์พระเยซูคริสต์ หลายคนสงสัยว่าเพราะอะไรสัญลักษณ์ไม้กางเขนของคริสเตียนถึงไม่มีพระเยซูคริสต์อยู่บนไม้กางเขน ก็เพราะพระเยซูคริสต์เป็นขึ้นจากความตายแล้ว! พระองค์ทรงพระชนม์อยู่ และทรงอยู่ในชีวิตของผู้เชื่อทั้งหลายทุกคน เราทั้งหลายจึงได้รับชีวิตนิรันดร์เพราะเราวางใจพระเยซู (ยอห์น 3:16) วันอีสเตอร์เป็นวันที่สำคัญมากเพราะว่าพระเยซูทรงยอมตายบนไม้กางเขนและทรงฟื้นขึ้นจากความตายเพื่อเราทุกคนจะไม่พินาศ
มีบุคคลที่สำคัญในช่วงวันอีสเตอร์คนหนึ่งนั่นก็คือ “มารีย์” นางเป็นหญิงสาวที่รักพระเยซูมาก เพราะนางได้นำน้ำหอมที่มีมูลค่ามาก (น้ำหอมที่ต้องทำต้องทำงานเท่ากับ 300 วัน) มาชโลมพระเยซูคริสต์ เพราะความรักของนาง ทำให้พระเยซูมีความสนิทสนมกับนางมารีย์และครอบครัวของนาง
มารีย์ชาวมักดาลาเป็นผู้หญิงธรรมดาที่น่าสงสาร ซึ่งอาศัยกับซีโมนคนโรคเรื้อน (นักวิชาการสัณนิฐานว่าซีโมนเป็นพ่อของนางมารีย์) หมู่บ้านที่นางอยู่มีชื่อว่า “เบธานี” ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีคนนอกรีตอาศัยอยู่มาก ถึงกระนั้นพระเยซูก็ไม่รังเกียจที่จะอาศัยในหมู่บ้านนี้ ครั้งหนึ่งน้องชายของมารีย์ที่ชื่อลาซารัสได้ตาย แต่มีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นนั่นก็คือพระเยซูได้ทรงทำการอัศจรรย์โดยการให้ลาซารัสฟื้นขึ้นจากความตาย
ก่อนที่พระเยซูจะถูกตรึงบนไม้กางเขนที่กรุงเยรูซาเล็ม พระองค์ได้ไปพักที่บ้านของนางมารีย์ นางได้นำน้ำหอมที่มีค่าของตัวเองมาชโลมกับพระเยซูก่อนที่พระองค์จะถูกตรึงบนไม้กางเขนและเป็นนางมารีย์คนเดียวกันที่พบพระเยซูเป็นคนแรกในวันที่ทรงฟื้นคืนพระชนม์ ชีวิตของนางมารีย์สอนใจเราที่เป็นคริสเตียนดังนี้
1. เมื่อเรา “รัก” เราจะไม่เสียดายที่จะ “ให้” เพราะนางมารีย์รักพระเยซูคริสต์มาก นางจึงไม่เสียดายน้ำหอมที่มีราคาแพงมากมาชโลมพระเยซู หากเรารักใคร เราก็ควรที่จะให้ทั้ง เวลา เงินทอง หรืออะไรที่มีค่า กับคนที่เรารัก
2. “ให้” ในขณะที่มีโอกาส นางมารีย์ได้ถวายน้ำหอมในขณะที่พระเยซูทรงยังมีพระชนม์อยู่ เพราะนางรู้อยู่แก่ใจว่าเวลาที่พระเยซูจะสิ้นพระชนม์มาใกล้แล้ว คริสเตียนควรใช้โอกาสที่มีอยู่ในการให้ อย่ารอจนคนรับต้องตายจากแล้วมานั่งเสียใจว่ายังไม่ได้ทำสิ่งที่ดี ที่ควรทำกับคนๆ นั้น
3. ไปหาพระเยซู ด้วย “ความเชื่อ” นางมารีย์ไปอุโมงค์ฝังศพพระเยซูก่อนพวกสาวก ทำไมนางจึงไม่กลัวอุปสรรคตรงหน้า? นั่นก็เพราะนางมารีย์ไปด้วยความเชื่อ เมื่อนางไปถึงอุโมงค์ นางไม่ต้องกลิ้งหินที่ปิดปากอุโมงค์ ไม่ต้องกลัวทหารยาม มีสิ่งเดียวที่นางพบก็คือ อุโมงค์ว่างเปล่า คริสเตียนเราก็เช่นกัน “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด” ทำทุกสิ่งโดย “ความเชื่อ” และจะพบ “ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า”
4. “รอ” จนได้พบพระเยซู มารีย์ได้รออยู่ที่หน้าอุโมงค์แม้ว่าพวกสาวกได้พากันกลับบ้านแล้ว เพราะใจที่อดทนรอคอย พระเยซูจึงทรงปรากฏกับนางเป็นคนแรก
แบ่งปันพระพร ศจ.ดร.ทะนุ วงศ์ธนาธิกุล วันอาทิตย์ที่ 5เมษายน 2015